ภาพใหญ่ "กลุ่มอาหาร"



ในบรรดาการลงทุนต่างๆที่ผ่านมา ผลกำไรจากการลงทุนหุ้นและราคาหุ้นในกลุ่มอาหาร เป็นกลุ่มหนึ่งที่มีการเพิ่มขึ้นดีกว่าตลาดที่มากและต่อเนื่อง ภาพใหญ่ในกลุ่มอาหารนั้นง่ายและชัดเจนเนื่องจากมันเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเราโดยตรง เราชิมได้ การลงทุนในสิ่งที่เราเข้าใจดีจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้ง่ายกว่า และนี่คือสิ่งที่ผมสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงต่างๆจากการตระเวณชิมอาหาร ในพื้นที่ต่างๆ ในเวลาต่างๆ และในเขตวัฒนธรรมต่างๆ มานานนับสิบปี

1.โลกเราจะบริโภคเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น
เวลาผมเดินทางไปยังหมู่บ้านที่ร่ำรวยและยากจนบนโลก ความแตกต่างที่ชัดเจนคืออาหารมีโปรตีนสูง เช่นเนื้อสัตว์ จะมีสัดส่วนในอาหารที่มากขึ้น เมื่อประชาชนอยู่ในพื้นที่ที่เศรษฐกิจดีกว่า ความยากจนส่วนมาก จะอยู่ลึกเข้าไปในแผ่นดินใหญ่ เป็นบริเวณที่มีต้นทุนการติดต่อกับโลกภายนอกที่สูง สภาพอากาศไม่เหมาะสมกับการเลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ การผลิตขนส่งเนื้อสัตว์เข้าไปทำได้ยากและมีราคาแพง ถ้าคนจนในจีน อินเดีย พม่า เวียดนาม อินโดนีเซีย รวยขึ้น เขาจะกินข้าวได้เท่าเดิม แต่จะกินเนื้อเพิ่มขึ้น เนื้อที่ผลิตง่าย มีอัตราแลกเนื้อต่ออาหารที่สูง และราคาถูกที่สุดตอนนี้คือเนื้อไก่ จึงน่าจะยังมีอนาคต เมื่อประชากรในประเทศเหล่านี้มีกำลังซื้อที่มากขึ้น ส่วนประเทศในทางตะวันตก เนื้อสัตว์ที่ราคาถูกที่ได้รับความนิยมคือปลาทูน่าและไก่ แต่ปลาทูน่า ยังไม่สามารถเพาะเลี้ยงขึ้นมาเองได้ ดังนั้นประสิทธิภาพในการผลิตจึงไม่เท่ากับเนื้อไก่ สำหรับเนื้อของสัตว์กินหญ้าทั้งหมด อัตราการแลกเนื้อจะต่ำกว่า จึงเหมาะเป็นอาหารในแต่ละท้องถิ่นมากกว่า อาหารเพื่อการอุตสาหกรรม

2.อาหารจะมาพร้อมความสะดวกและรวดเร็ว
สมัย 10ปีก่อนที่ผมไปเมืองจีนครั้งแรก อาหารส่วนใหญ่จะถูกปรุงโดยคนท้องถิ่น เมนูหลากหลาย มีร้านอาหารประเภท fast food แบบนับร้านได้ แต่คนจีนวันนี้เริ่มเข้าสู่ยุคอ้วน เช่นประเทศทางตะวันตก ยาลดไขมันทุกยี่ห้อขายดีเป็นเทน้ำเทท่า อาหารที่มีโปรตีนและไขมันสูง ได้แทรกซึมเข้าไปในทุกครัวเรือนแล้ว คลื่นยุคที่สองในอุตสาหกรรมอาหาร คือการที่อาหารต้องมีคุณค่าพร้อมความสะดวกและอร่อย ดังนั้นในประเทศที่มีชนชั้นกลางเกิดขึ้นแล้ว การขยายตัวของ fast food, chain restaurant, ready to eat และ quick service restaurant ก็จะติดตามมา

3.อาหารเพื่อสุขภาพ ยังคงมีขนาดตลาดไม่ใหญ่
อาหารเพื่อสุขภาพที่ดี นอกจากจะต้องมีคุณค่าทางอาหารที่ดี ปลอดภัยแล้ว ด้วยตัวมันเองจะต้องทำให้เราสามารถบริโภคได้น้อยลงหรือช้าลง อาหารเพื่อสุขภาพจึงไม่สามารถสร้างตลาดขนาดใหญ่ได้ จึงเหมาะกับการเป็นอาหารของตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือตลาดพรีเมี่ยมมากกว่า และเหมาะกับตลาดของวัตถุดิบ มากกว่าตลาดของร้านอาหารแบบ chain restaurant ตรงกันข้ามกับกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ผู้บริโภคมักจะมีการใช้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนเกินพอดี จึงเหมาะกับการทำเป็นธุรกิจมากกว่า ขยายตัวได้ง่ายกว่า และสามารถทำกำไรได้ดีกว่าร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ในต่างประเทศตอนนี้ อาหารเพื่อสุขภาพ จะมาในรูปแบบของวัตถุดิบชั้นเลิศ และ home cooking

4.อาหารไทย ยังคงขายได้เสมอ
อาหารไทยมีภาพลักษณ์ของการเป็นอาหารสุขภาพดี และสำหรับชาวตะวันตก มันยังแฝงนัยยะของโอกาสพิเศษพ่วงอยู่ด้วย เราจึงเห็นร้านไทยส่วนใหญ่ในต่างประเทศขณะนี้อยู่ในรูปแบบของร้านอาหารและภัตตาคารหรู จึงยังมีช่องว่างของอาหารไทยในต่างประเทศอีกมากในรูปแบบของ quick service restaurant อาหารไทยนั้นทำให้รสชาติเป็นอย่างไทยยากถ้าไม่ใช่คนไทยทำ ดังนั้นโรงเรียนสอนการทำอาหารไทยก็น่าจะมีลู่ทางที่ดี หากมีการเปิดในต่างประเทศได้

5.อาหารในอนาคตจะเป็นอาหารที่เรียกว่า total food
คือจะต้องมีองค์ประกอบครบตามทุกอย่างข้างต้น ตั้งแต่คุณค่าอาหาร รสชาติ โภชนาการ ปริมาณ ความหลากหลายของวัตถุดิบ การจัดแต่ง การเสริฟ์ การกิน กลิ่น เสียง สัมผัส ซึ่งจริงๆก็มีอยู่แล้วในวัฒนธรรมขั้นสูงในเขตวัฒนธรรมต่างๆ แต่จะมีคนสามัญเข้าไปลิ้มลองในโอกาสพิเศษมากขึ้น ในแบบของ affordable luxury นอกจากนี้ อาหารจะเริ่มเป็นแบบ fusion เพิ่มขึ้น คือคนบางกลุ่มยังคงทำอาหารตามวัฒนธรรมและวัตถุดิบดั้งเดิม ในขณะที่อีกกลุ่มกำลังจับมันมาผสมกัน

นี่คือภาพใหญ่ของอาหาร เท่าที่ผมมองเห็น ตอนนี้คนใส่ใจสุขภาพกันมาก คนยอมจ่ายแพงขึ้นกับอาหารทุกมื้อ อาหารกับสุขภาพที่ดีเป็นของคู่กัน อุตสาหกรรมอาหารจึงน่าจะยืนยาวไปคู่กับการดำรงอยู่ของมนุษย์ เพียงแต่ในประเทศใด จะมีความสอดคล้องไปกับความต้องการเพิ่มเติมแบบใด และอยู่ในขั้นตอนใดของการวิวัฒนาการในอุตสาหกรรมอาหาร 

You are what you eat 
Your money are what you invested in.

อย่าลืมนะครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ราคา คุณค่า กับ มูลค่า (Price, Value and Worth)

การลงทุนกับการเลี้ยงวัว

ข้อมูล หรือ ข้อเท็จจริง หรือ ข้อคิดเห็น (Information, Fact or Opinion)