การลงทุนกับการเลี้ยงวัว

การลงทุนกับการเลี้ยงวัว

บทความนี้เน้นทำเรื่องยากให้เป็นง่าย ถ้าท่านเข้าใจหลักการของการเลี้ยงวัวได้ ท่านก็จะกลายเป็นนักลงทุนที่ดีได้ ทันที

การลงทุนระยะยาวมีความคล้ายคลึงกับการทำฟาร์มโคหลายประการ และเนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าชั้นเรียนการลงทุนมาโดยตรง การอธิบายในรูปแบบของการทำฟาร์มนั้นน่าเข้าใจได้ง่ายกว่า เพียงแต่ว่าพอเป็นเรื่องเงินแล้ว คนส่วนใหญ่มักรอได้ไม่นานและขาดความสม่ำเสมอ การรวยช้าแต่มั่นคงจึงเป็นหลักการที่มีคนรู้มาก แต่ได้รับการปฏิบัติน้อย แต่ผู้ที่ปฏิบัติได้ จะสามารถประสบความสำเร็จทางการเงินทุกราย หลักการของการลงทุนระยะยาวที่คล้ายกับการทำฟาร์มโคนั้นมีอะไรบ้าง

อย่างแรก ความรู้ในการทำฟาร์มสำคัญกว่าจำนวนเงินลงทุน

หลายท่านชอบอ้างกับตัวเองว่า เงินเก็บยังไม่พอ จึงยังไม่เริ่มลงทุน ผมว่านี่ก็เหมือนการพูดกับตัวเองว่า เงินไม่พอจึงยังไม่เริ่มเลี้ยงวัว ท่านคงทราบเหมือนผมว่า การมีเงินเก็บมากหรือน้อย ไม่สำคัญต่อการเลี้ยงวัวเลย ปัจจัยสำคัญอยู่ที่การเลือกวัวเป็นเลี้ยงเป็น วัวที่เราจะเลือกมาเลี้ยงนั้น จะต้องแข็งแรง ทนโรค ให้น้ำนมมาก และสม่ำเสมอ หลังจากที่เรามีความรู้ในการเลือกวัวที่ดีได้แล้ว จึงค่อยเก็บเงินไปซื้อ ไม่ใช่เริ่มต้นจากการเก็บเงินให้ได้ก่อน แล้วค่อยไปถามพ่อค้าว่าเอาวัวตัวไหนดี เสร็จคนขายแน่นอน ตรงข้ามกับความคิดทั่วไป เงินทุนประเดิมยิ่งมาก ยิ่งมีมีไว้เพื่อเจ๊งมาก หากขาดความรู้

อย่างที่สอง วัวนั้นต้องไม่ตายไปเสียก่อนที่จะรีดนมได้

การมองบริษัทหนึ่งๆไปข้างหน้าระยะยาวว่าดูดี จะมีการเติบโตที่สูง ในระยะสั้น เราจะต้องประเมินความเป็นไปได้ว่า วัวตัวนี้จะรอดหรือโตได้อย่างที่ควรจะเป็นไปจนสามถึงห้าปีอย่างที่ผู้บริหารได้วางแผนนั้นหรือไม่ หลังจากที่เราได้ตัดสินใจเลือกวัวตัวใดตัวหนึ่งมาแล้ว เราต้องติดตามวัวที่เราเลี้ยงว่า มีการเติบโตของยอดขายและกำไรแบบทำได้จริงหรือไม่ รายไตรมาสและรายปี ราคาวัวของนักลงทุนสำคัญเฉพาะตอนซื้อวัวกับตอนขายวัว ราคาวัวหรือราคาหุ้นระหว่างนั้นก็เหมือนราคาตอนที่วัวยังไม่โตเต็มที่ ไม่ควรนำมาประเมินความสำเร็จใดๆ ถ้าวัวที่เลี้ยงไว้ไม่โต ควรตัดใจขายทันทีที่ทราบ อย่าเลี้ยงต่อจะไม่คุ้ม วัวตัวไหนโตดีให้นมดี ก็ไม่ควรรีบร้อนขาย ยกเว้นจะหาวัวตัวใหม่ที่ดีกว่าทดแทนของเดิม ช่วงไหนขายไม่ได้ราคาก็อย่าใจร้อน เพราะวัวนั้นเก็บไว้ได้นานไม่เหมือนข้าวเปลือก ไม่มีค่าเสื่อมและยังมีแถมน้ำนมให้อีก

อย่างที่สาม กำไรระยะสั้นจะต้องแลกกับความมั่นคงในระยะยาวเสมอ

หากท่านเป็นคนที่เลี้ยงวัวได้ไม่นานแล้วชอบฆ่าทิ้งอยู่บ่อยๆ ในระยะสั้นนั้นอาจจะดูเหมือนได้กำไรดี แต่ในระยะยาว  อนาคตทางการเงินของคนนั้นอาจไม่มั่นคง ทั้งนี้เพราะเมื่อท่านขายวัวแล้วได้เงินมา ท่านจะประสบปัญหาสองอย่างขึ้นเสมอ คือหนึ่งต้องคิดว่าจะเอาเงินนั้นไปทำอะไรดี ส่วนเงินที่เหลือจะเอามาลงทุนซ้ำก็จะประสบปัญหาว่า จะเลือกวัวได้ดีเท่าตัวเก่าได้หรือไม่ หรือถ้าเป็นวัวที่ดีนั้น มักราคาแพงขึ้นเสมอ ในระยะยาว พอร์ทการลงทุนจึงโตได้ช้าเพราะเงินไหลออกจากพอร์ทไปทำอย่างอื่น วัวในฟาร์มไม่เพิ่มขึ้นแถมยังลดลง  และพอจะซื้อวัวที่ดีกลับกลายว่าจะต้องซื้อแพงขึ้นกว่าเดิม เงินจำนวนเท่าเดิมจึงซื้อวัวได้น้อยตัวลงอีก อาชีพการเลี้ยงวัวจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ไม่ใช่อยู่ที่กำไรระยะสั้น แต่อยู่ที่จำนวนวัวที่เรามีและความสามารถในการให้นมหรือตกลูกของแม่วัวที่เราทำได้ จำนวนวัวในฟาร์มก็คือจำนวนหุ้นของ
บริษัทที่ท่านถืออยู่ ดังนั้นจำนวนหุ้นของบริษัทที่เราถือและปันผลที่เพิ่มขึ้นทุกปี สำคัญมากกว่าราคาหุ้นของบริษัทที่ผันผวนไปในแต่ละปี

อย่างที่สี่ ทำวัวนม แค่ขายนมก็พอเลี้ยงชีวิตท่านได้แล้ว อย่าถึงกับขายวัว

ชาวนานั้นจะไม่ขายวัวถ้าไม่ถึงคราวอับจนจริงๆ เพราะวัวเป็นสินทรัพย์ที่สามารถเลี้ยงชาวนาได้ เพิ่มจำนวนได้ และสร้างรายได้ได้ ถ้าชาวนามีภาระหนี้สินล้นพ้นแล้วจริงๆจึงตัดสินใจขายวัวออกไป ความมั่งคั่งของคนเลี้ยงวัวนมจึงอยู่ที่ปริมาณวัว x ปริมาณนม (ปริมาณหุ้น x ปันผลต่อหุ้น) ที่ได้รับ ไม่ใช่ราคาวัวในตลาดครับ 

อย่างสุดท้าย การเลี้ยงวัวนั้น...น่าเบื่อ

สิ่งที่เราต้องทำในการเลี้ยงวัวแทบไม่มีอะไรต่างไปเลยในแต่ละวัน หรือแม้แต่กระทั่งห้าร้อยปีที่แล้ว ดังนั้นมันจึงเป็นกิจกรรมที่ต้องอาศัยความรับผิดชอบ ความต่อเนื่อง มากกว่าความรวดเร็ว หรือไหวพริบปฏิภาณ การเลี้ยงวัวนมนั้น ให้ความมั่นคงปลอดภัย และพอเพียง มากกว่าความตื่นเต้น ไปหาความตื่นเต้นจากกิจกรรมอื่น เราลงทุนแบบน่าเบื่อแต่มั่นคงและเลี้ยงชีพได้กันดีกว่าครับ

การเลี้ยงวัวอาจไม่ได้ทำให้ท่านร่ำรวยในทันทีทันใด ดังนั้นในระยะแรกของการลงทุน ท่านอาจจะต้องรับจ้างตัดหญ้า ปลูกผัก เลี้ยงปลา หาอาชีพเสริมอื่นๆไปพลางก่อน พอจำนวนวัวมากขึ้นในระดับหนึ่งที่เพียงแค่น้ำนมสามารถกลายเป็นรายได้ที่พอยังชีพแล้ว ท่านก็ไม่จำเป็นต้องทำงานหาเลี้ยงชีพอีกแล้ว ก็จะมีเวลาว่างให้ตัวเอง ให้สิ่งที่รัก และให้กับการทำประโยชน์อย่างอื่นๆได้

ถ้าหากถามผมว่า วอร์แรน บัฟเฟตรวยมาเพราะทำอาชีพอะไร


ผมขอตอบว่า เขาทำอาชีพ “เลี้ยงวัว” ครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ราคา คุณค่า กับ มูลค่า (Price, Value and Worth)

ข้อมูล หรือ ข้อเท็จจริง หรือ ข้อคิดเห็น (Information, Fact or Opinion)