ให้ฉันรอแล้วได้อะไร

ให้ฉันรอแล้วได้อะไร

บทสรุปของความรักที่บางครั้งเราก็ต้องรอ แต่ท้ายที่สุดของการรอ อาจจะไม่สมหวัง 

ให้ฉันรอแล้วได้อะไร" เป็นคำถามที่บางครั้งเราต้องถามใจตัวเอง เมื่อเราทำอะไรแล้วคิดจะรอ....

นอกจากความรัก การเป็นนักลงทุนก็มักจะมีเรื่องให้ต้องรอ "ให้ฉันรอแล้วได้อะไร" เป็นคำถามที่บางครั้งเราต้องถามใจตัวเองเมื่อคิดจะรอ ว่าการลงทุนที่เราลงทุนลงเงินไปนี้ เรากำลังรออะไรอยู่กันแน่

บางคน “รอเศรษฐกิจดีก่อน” อันนี้ผมเห็นก็รอกันทุกปี ได้บ้างไม่ได้บ้าง ซึ่งผมก็มักจะไม่ค่อยรอ เพราะลงทุนมาเกือบจะสิบปี ไม่เคยเห็นปีไหนที่ทุกคนพร้อมใจกันมาบอกว่าเศรษฐกิจดีเลยซักปี คนที่รอแบบนี้ก็เลยตกรถกันไปตลอด ซ้ำร้ายเมื่อมีข่าวเตือนว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี ก็ขายหมูไปก่อน ผมมักจะเลือกลงทุนในบริษัทที่อยู่ในหมวดอุตสาหกรรมที่ไม่ต้องพึ่งพายอดขายจากสภาพเศรษฐกิจมากนัก เพราะมันไม่ทำให้ผมต้องรอ ไม่ต้องทาย ใครมาบริหารก็ง่าย ไม่ต้องปวดหัวว่าตกลงปีหน้าหรือปีไหนที่มันจะดี

บางคน “รอปันผล" อันนี้ดูน่าจะรอขึ้นมาหน่อย แต่ขอซัก 5% ขึ้นไปนะ เพราะว่าถ้าได้แค่ 3-4% เราไปฝากแบงค์ หรือลงทุนอย่างอื่นที่ได้ผลตอบแทนเท่ากันแต่เครียดน้อยกว่าหุ้นดีกว่า ข้อดีของหุ้นปันผลมีอยู่อย่างเดียวเมื่อเทียบกับ ตราสารหนี้ที่ fix income อย่างอื่น คือถ้าบริษัทสามารถจ่ายปันผลให้เราเพิ่มขึ้นทุกปี การรอจะน่ารอเป็นอย่างมาก เพราะจาก 5% ก็จะสามารถเป็น 6 7 8% ต่อปีได้เมื่อเวลาผ่านไป ถ้าเราลงทุนในบริษัทแบบนี้ไว้ เราก็ควรที่จะรอ

บางคน “รอหุ้นขึ้น" แบบนี้ก็เหมือนการรอแบบลมๆแล้งๆ เพราะอย่างที่เคยกล่าวไว้ในตอนก่อนๆ เมื่อเราได้ซื้อหุ้นไปแล้ว ราคาหุ้นจะขึ้นได้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรา แต่มันอยู่ที่ว่าคนอื่นจะยอมซื้อในราคาที่สูงขึ้นหรือไม่ การรอความหวังจากคนอื่นนั้นบางครั้งก็ลมๆแล้งๆ ดังนั้นคนที่ซื้อ ถือ และรอ ก็อาจไม่สมหวังกับราคาหุ้นได้ทุกคน รอแล้วไม่ได้อะไรก็มี

บางคน “รอให้หุ้นลง" แบบนี้ก็เหมือนรอให้หุ้นขึ้น ราคาหุ้นมันไม่อยู่ในความควบคุมของเรา แต่ถ้าเราวางแผนไว้ก่อนก็สามารถทำได้ เช่นถ้าหุ้นลงไปเท่านั้นเท่านี้แล้ว เราจะทำอย่างนั้นอย่างนี้เป็นต้น แล้วต้องทำจริงๆด้วยนะ เพราะเท่าที่เคยเจอมา พอลงแรงๆเข้าจริงๆก็ “เลิก” ปกติราคาตกอย่างเดียวนั้นอาจไม่น่าสนใจเพียงพอ ไม่ใช่ว่าตกแล้วมันจะต้องเด้งกลับไปที่เดิมทุกครั้ง ถ้ากิจการน่าสนใจ ประสบปัญหาเพียงชั่วคราว มีแนวทางแก้ไขได้ชัดเจน เมื่อราคาหุ้นตกลงมาจนเข้าเกณฑ์ที่เราตั้งไว้ เราก็สามารถซื้อ ถือ และรอได้ จนกว่าวิกฤตครั้งนั้นจะผ่านไป 

บางคน “รอกำไรบริษัทเติบโต" อันนี้ดูที่จะเป็นเรื่องที่หวังได้ขึ้นมาหน่อย เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในความควบคุมของบริษัทนั้นๆ แต่การรอของเราต้องรออย่างมีแผนการณ์ด้วย คือท่านผู้บริหารต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนว่ากำไรจะเติบโตได้ด้วยวิธีการใด เอาเป็นว่าต้องบรรยายจนเราฝันตามไปด้วยได้ ยอดขายจะเพิ่มได้ทางใด ต้นทุนจะควบคุมวิธีใด กำไรจะเพิ่มแบบไหน ปันผลจะจ่ายเท่าไหร่ ต้องการเงินลงทุนอีกปีละเท่าไหร่ การรอให้วิสัยทัศน์ของท่านผู้บริหารเปลี่ยนมาเป็นกำไรให้ผู้ถือหุ้นได้ชื่นใจนั้น ต้องมีการควบคุมการปฏิบัติการลงทุน และการปฏิบัติงานตามแผนด้วย ผู้ถือหุ้นต้องคอยติดตามความคืบหน้าโครงการต่างๆของบริษัทไปด้วยกันเหมือนเป็นเจ้าของร่วมในกิจการนั้นๆด้วย ไม่ใช่รอเหมือนเจ้าหนี้เงินกู้ที่ยังไงไม่รู้ไม่สนใจ สิ้นปีจ่ายต้นจ่ายดอกมาได้ก็พอ

บางคน “รอใครสักคนมาซื้อกิจการ (take over)" วิธีคิดและมองหากิจการในลักษณะนี้ก็จะแตกต่างออกไปอีกจากการมองหาบริษัทที่กำไรเติบโต เราก็ต้องหาให้เจอทั้งคนที่จะมาซื้อกิจการ และกิจการที่น่าจะถูกซื้อ อันนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องยากสำหรับการลงทุนของมือใหม่ และในบางครั้งก็เป็นข่าวลือข่าวหลอก ต้องระมัดระวังให้ดีถ้าคิดจะซื้อหุ้นนั้นๆ โดยเฉพาะหลังจากที่ข่าวได้ประกาศออกมาสู่สาธารณะชนแล้ว ผมถือคติที่ว่าไม่ซื้อหุ้นที่ลงข่าวหน้าหนึ่งว่าดี แต่จะสนใจเฉพาะเมื่อมันลงข่าวหน้าหนึ่งในทางแย่

บางคน “รอการกลับตัว" การลงทุนในหุ้นที่ผลประกอบการแย่ๆ แล้วถือรอจนกระทั่งมีผลดำเนินงานออกมาดีนั้นสามารถทำได้ แต่เราต้องระมัดระวังสิ่งที่จะกำหนดผลการลงทุนของเราให้มากๆ คือระยะเวลารอต้องไม่นานหลายปีเกินไป ระหว่างรอบริษัทต้องไม่เพิ่มทุน เพิ่มหนี้มหาศาล หรือล้มละลายหายไปซะก่อนที่จะกลับมาดีใหม่ได้ ขนาดของผลตอบแทนต้องสูงมากๆเช่น 100-200% ขึ้นไป และต้องติดตามอย่างใกล้ชิดยิ่งกว่ากิจการปกติในช่วงที่รอ การลงทุนในหุ้นเหล่านี้ค่อนข้างยาก เพราะแม้แต่เจ้าของบริษัทเองที่เก่งกว่าเรา ยังไม่รู้จะไปกอบกู้บริษัทตัวเองมายังไงเลย สมมุติบริษัทเหล็กจะฟื้นตัว เจ้าของต้องไปบังคับให้ราคาเหล็กขึ้น ซึ่งถ้าลูกค้าไม่ยอมซื้อราคานั้นแล้วเขาจะทำไงได้ ถ้าเราจะไปสวนกระแสลงทุนในหุ้นแบบนี้ ช้าแต่ชัวร์ น่าจะดีกว่าครับ

บางคน “รอเจ้ามือมาปั่น" อันนี้ก็ตัวใครตัวมันเหมือนกัน เจ้ามือสมัยนี้ก็ใช่ว่าจะไม่ฉลาดนะครับ ตอนนี้หุ้นปั่นต่างๆทั้งหลายท่านก็ต้องเน้นตามสมัยนิยมด้วย เจ้ามือเค้าดูตาม้าตาเรือมาอย่างดี หุ้นปั่นตอนนี้ผมบอกได้เลยว่ามักจะเป็นหุ้นวีไอนี่แหละ ปั่นง่าย ได้ใจดีนักแล คนที่ซื้อลงทุนบางคนคิดว่าหุ้นมันคงจะดีจริงมั้งเห็นมันขึ้นเอาขึ้นเอา หารู้ไม่...เสร็จเจ้ามือเค้าอีกละ ไม่เชื่อก็ไปดูในห้องสินธรได้เลย ที่เม่าติดๆหุ้นกันอยู่ตอนนี้หุ้นระดับโลกแทบทั้งนั้น


ให้ฉันรอแล้วได้อะไร ท้ายที่สุดของการรออาจจะไม่สมหวัง เหมือนกับชื่อเพลง ลงทุนรอแล้วได้อะไร ลองกลับไปถามตัวเองกันดู อย่าให้เหมือนใน MV…..

ความคิดเห็น

mark davis กล่าวว่า
ขอให้มีความสุขในวันนี้
ฉันชื่อฟิลิปฉันต้องการลงทุนในธุรกิจของคุณโดยสุจริตฉันมีการลงทุนที่ทำกำไรฉันยังเสนอสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์และสินเชื่อส่วนบุคคลในอัตราดอกเบี้ยต่ำมาก 3% ต่อปีเป็นระยะเวลาหนึ่ง ปีแห่งการชำระหนี้เป็นส่วนหนึ่งของโลก

คุณต้องการเครดิตดอกเบี้ยรายปี 3% จากจำนวนเงินทั้งหมดที่คุณต้องใช้ในการจัดหาเงินทุนหรือการเป็นหุ้นส่วนหุ้น 50/50% เป็นระยะเวลา 1 ถึง 10 ปีหรือไม่? ฉันต้องการทราบตัวเลือกของคุณเพื่อให้เราสามารถดำเนินการเจรจาต่อไปได้จำนวนเงินสูงสุดคือ $ 100million USD
อีเมลติดต่อ: info@voorhinvestcorp.com
URL ของเว็บไซต์: http://voorhinvestcorp.com/
WhatsApp: +1 4704068043
LINE ID: philipvoor
อีเมล: voorheesphilip@gmail.com
ขอบคุณ
VOORHEES PHILIP

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ราคา คุณค่า กับ มูลค่า (Price, Value and Worth)

การลงทุนกับการเลี้ยงวัว

ข้อมูล หรือ ข้อเท็จจริง หรือ ข้อคิดเห็น (Information, Fact or Opinion)