อาการเซียน
อาการเซียน
หากทุกท่านยังพอจำได้ เมื่อประมาณ 1-2 ปีก่อน ที่ตลาดหลักทรัพย์ไทยทำจุดสูงสุดใหม่วันแล้ววันเล่า ผมสังเกตว่าในขณะนั้น มีเซียนเกิดขึ้นรอบตัวผมมากมาย ทั้งเซียนเกิดใหม่ เซียนวีไอ เซียนเทคนิค เกิดขึ้นเต็มไปหมด ซึ่งหากฟังบทวิเคราะห์หรือการคาดการณ์ของเขาอย่างเป็นกลางตามประสาที่ผมผ่านร้อนผ่านหนาวมา หลายรอบแล้ว ผมบอกทุกคนในตอนนั้นให้ฟังว่า “มันผิดปกติ” ที่คนรอบตัวผมสามารถมองไปได้ในทางเดียวกันหมด และมัน “ผิดปกติ” ที่มีคนคิดจะลาออกจากงานมาเล่นหุ้นเต็มไปหมด
ความได้เปรียบของคนรุ่นกลางในตลาดหุ้นอย่างผมคือ การที่สามารถเอาประสบการณ์ของคนรุ่นก่อน ในยุกบุกเบิกของตลาดหลักทรัพย์ไทย เช่น อาจารย์นิเวศน์ หรือ คนที่เจ๊งช่วงวิกฤตเศรษฐกิจคนอื่นๆ มาเป็นคติเตือนใจและเป็นแรงบันดาลใจในการลงทุนได้ ในขณะเดียวกันก็ไม่ใหม่ต่อโลกมากเสียจนไม่ประสีประสาอะไร ไม่ต้องลองผิดลองถูกเองทั้งหมด ผมไม่เชื่อใจว่าใครเป็นเซียนแค่จากผลการลงทุนเพียงเท่านั้น คนเป็นเซียน ย่อมจะแสดงอาการเซียนออกมาด้วยเสมอ
ผมชอบอ่านงานเขียนของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ (และคนที่บังเอิญล้มเหลวด้วย) บทความที่ผมเขียนให้ท่านอ่านในแต่ละตอนนั้น คัดมาจากโน๊ตย่อที่กรองมาจากหนังสือที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและการลงทุน รวมทั้งเทคนิคของเซียนท่านต่างๆที่ผมเขียนเอาไว้เตือนใจตัวเอง และเขียนเพื่อเป็นเครื่องทุนแรงให้คนอื่นๆได้รู้ตามได้ง่าย เวลาที่มีใครมาถามผมหนึ่งคำถาม ผมก็จะขอตอบเขาทางเฟสบุ๊คหรือเพจนี้ เพื่อให้ความรู้และประสบการณ์ สามารถกระจาย อ่านซ้ำ และคงทน กว่าการมานักคุยและสนทนาตามปกติ
นอกเรื่องกันมานานเลยครับ ขอเข้าประเด็นของวันนี้เลยดีกว่า ว่า อาการของเซียนนั้น มีลักษณะที่คล้ายๆและซ้ำๆกันอย่างไร
1.เชี่ยวชาญการลงทุนเฉพาะด้าน (Specialized)
2.มีความสามารถในการระดมเงินลงทุนอย่างเชี่ยวชาญ มีต้นทุนที่ต่ำ และเหมาะสมกับ maturation ของหลักทรัพย์ที่นำไปลงทุน (Money Management)
3.ตีแตก เมื่อสถานการณ์มาถึง (Leverage)
4.เล่นเฉพาะเกมที่ตัวเองถนัด และสามารถรอคอยได้นาน (Timing)
5.มีวินัยการลงทุนอย่างสูง สามารถทำตามแผนการณ์โดยไม่พึ่งพาปัจจัยภายนอก (Discipline)
6.ทำงานเพื่องาน ไม่ได้ทำงานเพื่อเงิน (Devotion)
7.รู้จริง จึงไม่จำเป็นต้องกระจายความเสี่ยง (Focus)
8.มีระบบปิดการขาดทุนอย่างชัดเจน (Risk Management) และปฏิบัติได้จริง (Simple and Practical)
9.สามารถมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นยังมองไม่เห็น (Foresee)
10.เวลาจะลงทุน ไม่ต้องพึ่งเวปบอร์ด (อันนี้ผมคิดเองครับ เซียนไม่ได้พูด)
ผมคิดว่าข้อเตือนใจทั้งสิบข้อนี้ คงจะสามารถใช้เป็นแนวทางและข้อเตือนใจของนักลงทุนใหม่ๆ ที่จะใช้ไว้ตามรอยเซียนได้
และแน่นอนครับ เมื่อท่านฝึกหัดทำตามวิถีเซียนเหล่านี้แล้ว นอกจากเราสามารถจะลงทุนได้อย่างสบายใจปลอดภัยแล้ว ผลลัพธ์การลงทุนที่ท่านจะได้....
ก็จะได้ตามรอยเซียนเช่นกันครับ
หากทุกท่านยังพอจำได้ เมื่อประมาณ 1-2 ปีก่อน ที่ตลาดหลักทรัพย์ไทยทำจุดสูงสุดใหม่วันแล้ววันเล่า ผมสังเกตว่าในขณะนั้น มีเซียนเกิดขึ้นรอบตัวผมมากมาย ทั้งเซียนเกิดใหม่ เซียนวีไอ เซียนเทคนิค เกิดขึ้นเต็มไปหมด ซึ่งหากฟังบทวิเคราะห์หรือการคาดการณ์ของเขาอย่างเป็นกลางตามประสาที่ผมผ่านร้อนผ่านหนาวมา หลายรอบแล้ว ผมบอกทุกคนในตอนนั้นให้ฟังว่า “มันผิดปกติ” ที่คนรอบตัวผมสามารถมองไปได้ในทางเดียวกันหมด และมัน “ผิดปกติ” ที่มีคนคิดจะลาออกจากงานมาเล่นหุ้นเต็มไปหมด
ความได้เปรียบของคนรุ่นกลางในตลาดหุ้นอย่างผมคือ การที่สามารถเอาประสบการณ์ของคนรุ่นก่อน ในยุกบุกเบิกของตลาดหลักทรัพย์ไทย เช่น อาจารย์นิเวศน์ หรือ คนที่เจ๊งช่วงวิกฤตเศรษฐกิจคนอื่นๆ มาเป็นคติเตือนใจและเป็นแรงบันดาลใจในการลงทุนได้ ในขณะเดียวกันก็ไม่ใหม่ต่อโลกมากเสียจนไม่ประสีประสาอะไร ไม่ต้องลองผิดลองถูกเองทั้งหมด ผมไม่เชื่อใจว่าใครเป็นเซียนแค่จากผลการลงทุนเพียงเท่านั้น คนเป็นเซียน ย่อมจะแสดงอาการเซียนออกมาด้วยเสมอ
ผมชอบอ่านงานเขียนของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ (และคนที่บังเอิญล้มเหลวด้วย) บทความที่ผมเขียนให้ท่านอ่านในแต่ละตอนนั้น คัดมาจากโน๊ตย่อที่กรองมาจากหนังสือที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจและการลงทุน รวมทั้งเทคนิคของเซียนท่านต่างๆที่ผมเขียนเอาไว้เตือนใจตัวเอง และเขียนเพื่อเป็นเครื่องทุนแรงให้คนอื่นๆได้รู้ตามได้ง่าย เวลาที่มีใครมาถามผมหนึ่งคำถาม ผมก็จะขอตอบเขาทางเฟสบุ๊คหรือเพจนี้ เพื่อให้ความรู้และประสบการณ์ สามารถกระจาย อ่านซ้ำ และคงทน กว่าการมานักคุยและสนทนาตามปกติ
นอกเรื่องกันมานานเลยครับ ขอเข้าประเด็นของวันนี้เลยดีกว่า ว่า อาการของเซียนนั้น มีลักษณะที่คล้ายๆและซ้ำๆกันอย่างไร
1.เชี่ยวชาญการลงทุนเฉพาะด้าน (Specialized)
2.มีความสามารถในการระดมเงินลงทุนอย่างเชี่ยวชาญ มีต้นทุนที่ต่ำ และเหมาะสมกับ maturation ของหลักทรัพย์ที่นำไปลงทุน (Money Management)
3.ตีแตก เมื่อสถานการณ์มาถึง (Leverage)
4.เล่นเฉพาะเกมที่ตัวเองถนัด และสามารถรอคอยได้นาน (Timing)
5.มีวินัยการลงทุนอย่างสูง สามารถทำตามแผนการณ์โดยไม่พึ่งพาปัจจัยภายนอก (Discipline)
6.ทำงานเพื่องาน ไม่ได้ทำงานเพื่อเงิน (Devotion)
7.รู้จริง จึงไม่จำเป็นต้องกระจายความเสี่ยง (Focus)
8.มีระบบปิดการขาดทุนอย่างชัดเจน (Risk Management) และปฏิบัติได้จริง (Simple and Practical)
9.สามารถมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นยังมองไม่เห็น (Foresee)
10.เวลาจะลงทุน ไม่ต้องพึ่งเวปบอร์ด (อันนี้ผมคิดเองครับ เซียนไม่ได้พูด)
ผมคิดว่าข้อเตือนใจทั้งสิบข้อนี้ คงจะสามารถใช้เป็นแนวทางและข้อเตือนใจของนักลงทุนใหม่ๆ ที่จะใช้ไว้ตามรอยเซียนได้
และแน่นอนครับ เมื่อท่านฝึกหัดทำตามวิถีเซียนเหล่านี้แล้ว นอกจากเราสามารถจะลงทุนได้อย่างสบายใจปลอดภัยแล้ว ผลลัพธ์การลงทุนที่ท่านจะได้....
ก็จะได้ตามรอยเซียนเช่นกันครับ
ความคิดเห็น