ข้อดีของการเป็นมนุษย์เงินเดือน


หลายๆคนที่กำลังทำงานประจำอาจกำลังรู้สึกเหนื่อย กดดัน ไม่เป็นอิสระ งานประจำหลายงานก็ช่างน่าเบื่อ ไม่ท้าทาย บางงานเจ้านายก็แสนจะขยัน ขยันปรับเป้างานเราขึ้นเอาๆไม่เว้นในแต่ละปี แต่นะ อย่างอื่นไม่เคยคิดจะปรับเพิ่ม เงินเดือนทำไมไม่ยอมเพิ่มตาม

มนุษย์เงินเดือนกับงานประจำเป็นปรากฏการณ์ที่เพิ่งเกิดบนโลกใบนี้ได้ไม่นาน เป็นนวัตกรรมในการบริหารค่าตอบแทนในการใช้แรงงานแบบที่มีกฏหมายเข้ามาควบคุมอย่างเข้มงวดกว่าการจ้างรายวันในแบบเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้นายจ้างสามารถเอาเปรียบลูกจ้างเกินสมควรได้ แม้ในปัจจุบันจะมีผู้ที่เห็นว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้นแสนจะลำบาก งานก็เหนื่อย เงินก็น้อย แถมขาดอิสรภาพ ผมก็เลยอยากจะลองคิดในทางตรงข้ามดูว่า ถ้าการเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้นถ้ามันพอจะมีข้อดีอยู่ มันจะมีข้อดีอะไรได้บ้าง ลองมาดูกันได้เลยครับ

อย่างแรก ป่วยก็ยังได้ตังส์
เดิมมนุษย์เราในยุคเกษตรกรรมนั้นทำงานได้รับผลตอบแทนตามผลของงานเป็นหลัก คือผลิตมากก็ได้มากผลิตน้อยก็ได้น้อย จนกระทั่งผ่านมาในยุคอุตสาหกรรมที่การใช้แรงงานคนได้กลายมาเป็นเพียง “ผู้ควบคุม” หรือ “ผู้ช่วยเหลือ” เครื่องจักร เครื่องจักรคือคนทำงานที่แท้จริงที่จะหยุดพักไม่ได้ แต่คนนั้นหยุดได้ สามารถลาพักได้ การเป็นมนุษย์เงินเดือนลึกๆแล้วส่อนัยของการขายเวลาในชีวิตมากกว่าการขายแรงงาน ถ้าเราเป็นลูกจ้างรายวัน หรือประกอบธุรกิจส่วนตัว ป่วยก็ต้องปิดร้าน การเป็นมนุษย์เงินเดือนย่อมดีกว่าในแง่นี้

อย่างที่สอง เงินสดรับรายเดือนคงที่
เงินเดือนที่เรารับทุกๆเดือนแม้จะน้อยแสนน้อย แต่มันมีข้อดีอย่างมากข้อหนึ่งคือ ‘’ความสม่ำเสมอคงที่” ดังนั้นมนุษย์เงินเดือนจึงตกเป็นเป้าที่หมายปองของบรรดานายธนาคารหรือผู้ให้กู้ทั้งหลายเป็นอันมาก เพราะความสม่ำเสมอนี้สามารถรับประกันการส่งต้นและดอกเป็นระยะเวลาที่นานแสนนานเท่าไหร่ก็ได้ ถ้ารายได้เราไม่สม่ำเสมอ จะเป็นการยากอย่างยิ่งที่เราจะมีเครดิตไปกู้เงินมาทำอะไรต่างๆได้ “สลิปเงินเดือน” จึงจัดเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับที่สอง รองจากดอกเบี้ยทบต้น ในโลกของทุนนิยมในปัจจุบัน

อย่างที่สาม แอบเอางานอื่นมาทำก็ได้ (แต่อย่าให้ใครรู้)
ระหว่างที่เราขายเวลาในชีวิตไปแลกเงินมา มันจะมีช่วงว่างๆระหว่างวันให้เราแอบอู้ได้เสมอ ถ้าเราประกอบธุรกิจส่วนตัวแล้ว “แอบอู้ = อด” แต่การเป็นมนุษย์เงินเดือน ยิ่งอู้ยิ่งสบาย ยิ่งถ้าใครเอางานเสริมมาแอบทำในระหว่างที่ทำงาน เทรดหุ้นไปทำงานไป หรือ ขายเครื่องสำอางค์ไปพิมพ์งานไป ก็จะยิ่งมีรายได้เพิ่ม ความเสี่ยงประการเดียวคือการถูกจับได้ แน่นอน หัวหน้าคุณย่อมรู้เรื่องการแอบอู้นี้เป็นอย่างดี (ก็เคยแอบเหมือนกันหนิ) ดังนั้นมนุษย์เงินเดือนจำเป็นจะต้องพัฒนาวิธีการแอบอู้ให้ทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ถูกจับได้ แถมยังดูดีในหมู่เพื่อนฝูงได้ตลอดเวลา พยายามเข้านะ

อย่างที่สี่ อ้างชื่อเสียงบริษัทมาเป็นของตนเองได้
สมมุติว่าเราเป็นคนที่ทำอะไรก็ได้แค่ปานกลางๆ เปิดบริษัทก็คงทำได้แค่บริษัทกลางๆ แต่การเป็นคนปานกลางที่แฝงตัวอยู่ในบริษัทที่ยอดเยี่ยม สามารถทำให้เราดูดีได้ในสังคมโดยที่เราไม่ต้องเหนื่อยยากมากนัก เมื่อผลงานของบริษัทดูดี เราก็ยิ่งพลอยจะดูดี แม้ว่าในความเป็นจริงเราอาจเป็นตัวถ่วงอย่างยิ่งใหญ่ของบริษัทอยู่ก็ได้ คนภายนอกมักตัดสินคนๆหนึ่งจากกลุ่มที่คนๆนั้นสังกัดอยู่ด้วย ดังนั้นถ้าเราลาออกมาทำงานเดี่ยว คนอื่นก็อาจจะเห็นความจริงได้ว่า ผลประกอบการจริงของเราตกต่ำเพียงใด

อย่างสุดท้าย เราคือผู้มีส่วนในการพัฒนาชาติ
มนุษย์เงินเดือนนั้นไม่สามารถปกปิดหรือหลบซ่อนที่มาของรายได้ที่เราได้รับในแต่ละเดือนได้ กรมสรรพากรจึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ความพยายามใดๆเลยในการตรวจสอบและจัดเก็บภาษีทุกบาททุกเม็ดจากเราได้แบบไม่มีขาดตกบกพร่อง ดังนั้นเราคือผู้มีส่วนสำคัญในการโอบอุ้มโครงการทั้งหลายของรัฐบาลเพื่อประชาชน ทั้งผู้ที่เสียภาษีมาก เสียภาษีน้อย คนรวย คนจน ตั้งแต่โครงการรถเมล์ฟรี ไปจนถึงค่าทุจริตในโครงการต่างๆ ถ้าประเทศไม่มีมนุษย์เงินเดือน สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เกิดขึ้นไม่ได้ แค่เราไปทำงานในตอนเช้า (แม้ว่าจะแอบอู้ในตอนบ่าย) แค่นี้เราก็มีส่วนอย่างยิ่งใหญ่ในการพัฒนาประเทศแล้ว

หวังว่าบทความในตอนนี้คงจะทำให้หลายคนมีกำลังใจทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปครับ เงินเดือนออกแล้วระวังอย่าเอาไปใช้จนหมด เก็บออมไว้ลงทุนบ้าง เผื่อรายรับไปถึงชีวิต


ในวันที่ไม่มีเงินเดือนให้ใช้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ราคา คุณค่า กับ มูลค่า (Price, Value and Worth)

การลงทุนกับการเลี้ยงวัว

ข้อมูล หรือ ข้อเท็จจริง หรือ ข้อคิดเห็น (Information, Fact or Opinion)