ลงทุนแบบ "Trigger Fund" ดีหรือไม่

ลงทุนแบบ Trigger Fund ดีหรือไม่

เวลาตลาดหลักทรัพย์เริ่มคึกคัก ผมสังเกตเห็นว่าจะมีการเสนอขายหน่วยลงทุนแบบ Trigger fund ออกมาให้นักลงทุนได้พิจารณาเสมอ นักลงทุนบุคคลหลายท่านก็ใช้นโยบายการลงทุนของตัวเองคล้ายๆการลงทุนแบบ Trigger Fund การลงทุนแบบ Trigger fund นั้นดีหรือไม่ นักลงทุนแบบไหนที่เหมาะหรือไม่เหมาะกับการลงทุนแบบนี้  8% เราควรยินดีหรือไม่ วันนี้มาลองดูความเห็นในมุมมองส่วนตัวของผมดูว่า Trigger fund หรือ Long term fund อย่างไหนที่เราควรจะจัดสรรเงินไปลงทุนมากกว่ากัน

โดยหลักการ Trigger fund จะใช้หลักการของ Market timing, Speculation, Market turnover ที่มากเพียงพอ  และ Positive Fund flow มากกว่าหลักการของการประเมิน Valuation และ Stock Selection ดังนั้นผลที่ติดตามมาจากนโยบายการลงทุนแบบนี้คือ ราคาหลักทรัพย์ในขณะนั้น มักจะไม่ถูกหรือมี margin of safety เพียงพอ แต่ก็มีข้อดีคือบริหารจัดการง่ายกว่าและดูเหมือนว่าจะไม่ต้องรอกันนาน

การลงทุนแบบ “ขึ้นขาย” “ลงไม่ขาย” แบบ Trigger Fund นี้ ดูผิวเผินแล้วเหมือนว่าจะไม่มีทางขาดทุน มีแต่กำไร  แต่ส่วนตัวแล้วผมกลับมองว่า มันเป็นการลงทุนแบบ “จำกัดกำไร” แต่  ”ไม่จำกัดการขาดทุน” ทำไมผมจึงคิดเช่นนั้น

สมมุติราคาหลักทรัพย์ในปัจจุบันคือ 100 บาทและ Trigger Fund ที่ 8% เมื่อราคาหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงจนถึง 108 บาท ผู้จัดการการลงทุนหรือนักลงทุนก็จะทำการขายปิดสถานะ แต่ถ้าหากหุ้นยังไม่ปิดที่ราคา 108 บาท นักลงทุนก็จะยังคงถือสถานะนั้นต่อไป

สมมุติว่าต่อมาราคาหุ้นตกลงมาที่ 80 บาท คนที่ถือกอง Trigger Fund ไว้ก็จะมีค่าเสียโอกาสถึง 20 % ที่จะซื้อหุ้นที่ราคานี้ ไปขายที่ต้นทุนเดิม ยิ่งถ้าโชคร้ายหนัก ราคาหุ้นวิ่งวนอยู่ในช่วง 80-100 เสมอ ทำให้คนนอกขายทำกำไรไปได้หลายรอบ แต่ Trigger Fund ยังคงไม่สามารถปิดกองได้อยู่ดี ค่าสูญเสียโอกาสตรงนี้ก็จะยิ่งแพง

ในทางตรงกันข้าม หากหุ้นวิ่งแรงมาก ทะลุไป 150 บาทในตอนสิ้นปี นโยบายการลงทุนแบบ Trigger Fund ก็จะยิ่งมีค่าเสียโอกาสจากกำไรในการถือต่อไปถึง 42% ดังนั้น 8% ที่ได้มานั้น ผมจึงว่ามันน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับค่าเสียโอกาสที่เราอาจจะได้รับ

การลงทุนแบบ Trigger Fund นั้น มีข้อดีเพียงประการเดียวคือเมื่อตลาดอยู่ในสภาวะ Sideway ซึ่งจะทำให้ลดค่าเสียโอกาสในทั้งขาขึ้นแรงและขาลงแรงได้ แต่ในเมื่อนโยบายนี้มาพร้อมกับการคาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นจะอยู่ในขาขึ้นแล้ว การปิดสถานะในขาขึ้นโดยไม่ Let Profit Run จึงเป็นเรื่องที่ขัดแย้งในตัวมันเองอย่างรุนแรง

ถ้าจะลงทุนในแบบ Trigger Fund ให้ถูกต้องควรจะมีนโยบายการลงทุนอย่างไร

ผมขอตอบว่า “’ง่ายมากครับ” คือลงทุนเมื่อคิดว่าตลาดจะเป็นขาขึ้นเท่านั้น ถ้ากำไรให้ Let profit Run อย่างน้อย 50% ถ้าพลาดขาดทุน ให้ขายหน่วยลงทุนออกมาทั้งหมด แล้วนำไปซื้อหน่วยที่ Outperform อยู่ แล้ว Let Profit Run เหมือนเดิม การแก้ไขการขาดทุน อาจจะไม่ต้องแก้ด้วยการซื้อหุ้นตัวเดิมหรือหลักทรัพย์เดิมก็ได้ครับ เอาเงินย้ายไปในตัวที่ Outperform เพื่อแก้ไขการขาดทุนจะทำได้ง่ายกว่ารอให้หุ้น Underperform กลายมาเป็นหุ้น Outperform ด้วยซ้ำ หากไม่แน่ใจว่าตลาดจะอยู่ในขาขึ้นหรือไม่ หรือจะ Sideway หรือไม่ ก็ต้องกลับไปใช้นโยบาย Value Fund แทน

สำหรับ Trigger Fund ในแบบของผม คือลงทุนเมื่อตลาดมีสภาพคล่องต่ำ ขายเมื่อตลาดมีสภาพคล่องสูง Trigger Level ที่ 100% ถ้าตัวไหนกำไรโตจึงซื้อเพิ่ม ถ้าตัวไหนกำไรตกจะ hold หรือ ย้ายการลงทุนเมื่อกำไรลดลง 2 ไตรมาสติดกัน

เป้าหมายชีวิตคุณตั้งไว้แค่ไหน คุณก็จะได้เท่านั้น

คล้ายๆ Trigger Fund เลยนะครับ