อายุ 4 ประเภท
อายุ 4 ประเภท
วันนี้เรามาข้ามในเรื่องการลงทุนไปบ้าง มาพักผ่อนหย่อนใจกับข้อเท็จจริงบางอย่างที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน
ถ้ามีใครถามว่าคุณอายุเท่าไหร่ ผมเชื่อว่าคุณจะตอบเขาไปได้ไม่อยาก
อายุของคนเรา โดยทั่วไปจะหมายถึง เดือนและปีในปัจจุบัน ลบด้วย เดือนและปีที่เราคลอดออกมา
เช่นถ้า เราเกิดในปี 2527 ปัจจุบัน เราจะมีอายุ 30 ปี นี่เป็นอายุเพียงแบบแรกที่เรียกว่า chronological age คือการนับอายุตามเวลารอบการขึ้นลงของดวงอาทิตย์ ว่าคนๆนี้ เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นลงมาแล้วกี่ครั้งกี่รอบ
อายุแบบที่สอง เรียกว่า documented age หมายถึง อายุตามใบแจ้งเกิด หรือหลักฐานทางราชการ ในช่วงที่การคมนาคมสื่อสาร หรือเทคโนโลยี ยังไม่พัฒนา มนุษย์หลายคนมีอายุตามบัตรประชาชนไม่ตรงตามอายุแบบแรก
อายุแบบที่สาม เรียกว่า biological age หมายถึงอายุตามการเสื่อมสภาพของร่างกาย มนุษย์สองคนที่อายุ chronological age เท่ากัน อาจจะมีอายุแบบ biological age ไม่เท่ากัน บางคนอายุ 60ปีแล้วยังดูแข็งแรง ในขณะที่อีกคน อาจกำลังต้องเริ่มฟอกไตแล้ว อายุแบบ biological age ถ้าจะเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายขึ้น ผมคิดว่าก็จะเหมือนรถมือสอง สองคันที่มีอายุการใช้งาน 5 ปีเท่ากัน คันแรกใช้งานสมบุกสมบัน ชนมาแล้วสามครั้ง เข็มไมล์ 250,000 กม. กับอีกคันขับถนอมกว่า ไม่เคยชน เข็มไมล์ 100,000 กม. รถสองคันนี้ คันหลังจะมีอายุการใช้งานเหลืออยู่มากกว่ามาก ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอยู่ตอนนี้คือ เมื่ออายุแบบ chronological age มากขึ้น biological age ก็จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนั่นก็เป็นความจริงแค่ส่วนเดียว ขณะนี้ เราสามารถพิสูจน์ได้แล้วว่า chronological age กับ biological age นั้น เดินเร็วไม่เท่ากันในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งพันธุกรรม อาหาร การออกกำลังกาย ความเครียด ภาวะจิตใจ ฯลฯ
อายุแบบที่สี่ เรียกว่า maturation age หมายถึงอายุทางความคิดที่จะค่อยๆพัฒนาขึ้น ตามประสบการณ์ของชีวิตที่เพิ่มขึ้น คนที่ต้องแก้ปัญหาชีวิตมากกว่า หรือมีการศึกษาอบรมมาดีกว่า จะมี maturation age ก้าวหน้า แม้จะมี chronological age ที่เท่ากัน
เลิกตัดสินคนด้วย chronological age หรือ documented age เพียงอย่างเดียวได้แล้วครับ เรากำลังพลาดมองข้ามในอายุแบบที่เหลือ
อย่างที่ว่า อายุแบบ chronological age นั้นเป็นแค่ตัวเลข
อย่าลืมสนใจอายุในแบบอื่นๆกันด้วยนะครับ
วันนี้เรามาข้ามในเรื่องการลงทุนไปบ้าง มาพักผ่อนหย่อนใจกับข้อเท็จจริงบางอย่างที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน
ถ้ามีใครถามว่าคุณอายุเท่าไหร่ ผมเชื่อว่าคุณจะตอบเขาไปได้ไม่อยาก
อายุของคนเรา โดยทั่วไปจะหมายถึง เดือนและปีในปัจจุบัน ลบด้วย เดือนและปีที่เราคลอดออกมา
เช่นถ้า เราเกิดในปี 2527 ปัจจุบัน เราจะมีอายุ 30 ปี นี่เป็นอายุเพียงแบบแรกที่เรียกว่า chronological age คือการนับอายุตามเวลารอบการขึ้นลงของดวงอาทิตย์ ว่าคนๆนี้ เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นลงมาแล้วกี่ครั้งกี่รอบ
อายุแบบที่สอง เรียกว่า documented age หมายถึง อายุตามใบแจ้งเกิด หรือหลักฐานทางราชการ ในช่วงที่การคมนาคมสื่อสาร หรือเทคโนโลยี ยังไม่พัฒนา มนุษย์หลายคนมีอายุตามบัตรประชาชนไม่ตรงตามอายุแบบแรก
อายุแบบที่สาม เรียกว่า biological age หมายถึงอายุตามการเสื่อมสภาพของร่างกาย มนุษย์สองคนที่อายุ chronological age เท่ากัน อาจจะมีอายุแบบ biological age ไม่เท่ากัน บางคนอายุ 60ปีแล้วยังดูแข็งแรง ในขณะที่อีกคน อาจกำลังต้องเริ่มฟอกไตแล้ว อายุแบบ biological age ถ้าจะเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายขึ้น ผมคิดว่าก็จะเหมือนรถมือสอง สองคันที่มีอายุการใช้งาน 5 ปีเท่ากัน คันแรกใช้งานสมบุกสมบัน ชนมาแล้วสามครั้ง เข็มไมล์ 250,000 กม. กับอีกคันขับถนอมกว่า ไม่เคยชน เข็มไมล์ 100,000 กม. รถสองคันนี้ คันหลังจะมีอายุการใช้งานเหลืออยู่มากกว่ามาก ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอยู่ตอนนี้คือ เมื่ออายุแบบ chronological age มากขึ้น biological age ก็จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนั่นก็เป็นความจริงแค่ส่วนเดียว ขณะนี้ เราสามารถพิสูจน์ได้แล้วว่า chronological age กับ biological age นั้น เดินเร็วไม่เท่ากันในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งพันธุกรรม อาหาร การออกกำลังกาย ความเครียด ภาวะจิตใจ ฯลฯ
อายุแบบที่สี่ เรียกว่า maturation age หมายถึงอายุทางความคิดที่จะค่อยๆพัฒนาขึ้น ตามประสบการณ์ของชีวิตที่เพิ่มขึ้น คนที่ต้องแก้ปัญหาชีวิตมากกว่า หรือมีการศึกษาอบรมมาดีกว่า จะมี maturation age ก้าวหน้า แม้จะมี chronological age ที่เท่ากัน
เลิกตัดสินคนด้วย chronological age หรือ documented age เพียงอย่างเดียวได้แล้วครับ เรากำลังพลาดมองข้ามในอายุแบบที่เหลือ
อย่างที่ว่า อายุแบบ chronological age นั้นเป็นแค่ตัวเลข
อย่าลืมสนใจอายุในแบบอื่นๆกันด้วยนะครับ
ความคิดเห็น