แล้วความมืดก็จะหายไป

โลกมีกลางวัน กลางคืน ผู้ชาย ผู้หญิง ความดี ความชั่ว การเกิด การตาย ความสุข ความเศร้า ฯลฯ

ของเหล่านี้ เรียกว่าสิ่งที่มาเป็นคู่ คือสิ่งที่มีลักษณะตรงข้ามกัน เมื่อมีสิ่งหนึ่งในขณะใด ก็จะไม่มีอีกสิ่งหนึ่งที่คู่กับมัน ในเวลาเดียวกัน ณ ที่เดียวกัน ในสิ่งเดียวกัน

ตลาดรุ่งเรือง หรือตลาดที่ซบเซา ก็เป็นของที่เป็นคู่กัน แม้เราจะเห็นว่ามันเป็นคู่ แต่จะไม่มีทั้งสองสิ่งในเวลาเดียวกัน ณ ตลาดเดียวกัน

ถ้าจะทำเรื่องนี้ให้เห็นเป็นภาพ ลองสร้างภาพแกน X ที่มี จำนวนที่เป็นลบอยู่ด้านหนึ่ง ตรงกลางเป็นศูนย์ และมีจำนวนที่เป็นบวกอยู่อีกด้านหนึ่ง

แท้จริงแล้ว ของคู่ที่กล่าวถึงไปทั้งหมดนี้นั้น ก็คือสิ่งๆเดียวกัน ไม่ได้แยกขาดจากกัน เพียงแต่มันวิ่งไปมาอยู่ระหว่าง ค่าลบ ศูนย์ และค่าบวก อยู่ตลอดเวลา

เช่นความสุขก็คืออารมณ์ที่มีค่าบวก เฉยๆก็คืออารมณ์ที่มีค่าศูนย์ ความเศร้าก็คืออารมณ์ที่มีค่าลบ

เมื่อมันอยู่ที่ค่าลบ เราย่อมไปชอบใจ เมื่อมันอยู่ที่ค่าบวก เราก็ชอบใจ แต่สิ่งต่างๆบนโลกล้วนแต่เดินไปตามลักษณะตามธรรมชาติของมัน มันไม่ได้สนใจว่าเราจะคิดกับมันยังไง

ที่เป็นเช่นนี้เพราะ เราถูกธรรมชาติประดิษฐ์ขึ้นมา คือผู้ที่เกิดมาทีหลัง ถ้าธรรมชาติไม่เกิดก็ไม่สามารถมีเราอยู่ได้ เราต้องรับให้ได้กับสิ่งที่เรียกว่า "dynamic" ซึ่งเป็นลักษณะของสิ่งพื้นฐานทุกอย่าง ตั้งแต่พลังงาน อิเลคตรอน อะตอม ธาตุ โมเลกุล ลามมาจนถึง ชีวิต สังคม เศรษฐกิจ

เราไม่ได้ประดิษฐ์สิ่งรอบตัวเรามาแม้แต่น้อย เราคือผู้ที่เกิดมาทีหลังสิ่งต่างๆ ที่เราเห็น ดังนั้น เราคือผู้ใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ มิใช้ผู้ประดิษฐ์ธรรมชาติ

ตรงกันข้าม สิ่งต่างๆที่เกิดมาภายหลังเรา เช่น รถยนต์ สุนัขที่เราผสมสายพันธ์ใหม่ บริษัทที่เราตั้งขึ้น กฏหมาย ฯลฯ เราสามารถกำหนดมันได้มากกว่า 

แม้ว่าเราจะพยายามรักษาสิ่งต่างๆให้มันอยู่นิ่งๆที่เดิมให้นานๆ แต่มันจะทำได้เพียงแค่ชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น สุดท้ายแล้ว เมื่อเวลาดำเนินไปเรื่อยๆ มันจะมีพลังพอที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้ เคลื่อนย้ายไปยังจุดอื่นๆ และง่ายกว่าที่จะไปในทางตรงกันข้ามผ่านจุดศูนย์ มากกว่าที่จะเป็นบวกยิ่งๆขึ้นหรือลบยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ

นี่เป็นวิถีที่เราต้องยอมรับ เมื่อเราต้องเกี่ยวพันกับสิ่งที่เราไม่ได้ประดิษฐ์มันขึ้นมาทั้ง 100%

เวลาในหนึ่งวันก็เหมือนกับภาวะตลาด เมื่อรุ่งเรือง ส่องสว่าง ท่านจะต้องเตือนตนเองว่า กลางคืนกำลังจะมา

ในทางตรงข้าม ในเวลาที่ข่าวร้าย เช่นกลางคืนในตอนนี้ ท่านต้องเตือนตนเองว่า กลางวันกำลังจะมา

กลางคืน กลางวัน หุ้นขึ้น หุ้นลง มันก็ของสิ่งเดียวกัน

เมื่อรู้ว่ากลางวันนั้นมาแน่ แต่บังเอิญเราไม่มีนาฬิกา ท่านจะทำอย่างไร

เป็นการบ้านสำหรับนักลงทุนทุกท่านครับ