รอยรั่ว ที่มองไม่เห็น
การลงทุนนั้น เป็นผลสืบเนื่องมาจากการออม เราไม่สามารถเอาเงินมาลงทุนได้ ถ้ายังไม่มีเงินออม ดังนั้นการที่เราจะสามารถเป็นนักลงทุนที่ดีได้ เราจะต้องเป็นนักออมเงินที่ดีด้วย ใครที่ได้เงินลงทุนที่ไม่ได้มาจากการออม (เช่นมรดก) ถ้าไม่จบตรงที่การกลายเป็นค่าใช้จ่าย ก็มักจะลงเอยด้วยการสูญเสีย เพราะมันเป็นเงินที่ได้มาฟรี
สมการการออมนั้นง่ายแสนง่าย
รายได้ - รายจ่าย = เงินออม
ดังนั้นเพื่อที่จะมีเงินออมมาลงทุนได้เพิ่มขึ้น เรามีทางเลือกเพียงสองทางคือ
1.เพิ่มรายได้ หรือ 2.ลดค่าใช้จ่าย
วันนี้เรามาดูเรื่องค่าใช้จ่าย หรือ “รอยรั่ว” ในกระเป๋าสตางค์ที่เราหลายคนอาจมองข้าม มาดูกันว่า ถ้าเวลาผ่านไป 1 ปีหรือ 20 ปี รูรั่วเหล่านี้ จะสร้างความเสียหายแก่เงินออมของเราได้มากเพียงใด
เริ่มจาก บุหรี่
ถ้าเราสูบทุกวันวันละ 1 ซอง รูรั่วนี้จะสร้างความเสียหาย 65 บาทต่อวัน, 23,725 บาทใน 1 ปี, และ 474,500 บาทใน 20 ปี
เบียร์
ถ้าเราดื่มเบียร์ทุกวันวันละ 1 กระป๋อง รูรั่วนี้จะสร้างความเสียหาย 35 บาทต่อวัน, 12,775 บาทใน 1 ปี, และ 255,500 บาทใน 20 ปี
กาแฟพรีเมี่ยมยี่ห้อหนึ่ง
ถ้าเราดื่มกาแฟวันละ 1 แก้ว 5 วันต่ออาทิตย์ รูรั่วนี้จะสร้างความเสียหาย 110 บาทต่อวัน, 28,600 บาทใน 1 ปี, และ 572,000 บาทใน 20 ปี
น้ำมัน
ถ้าเราใช้น้ำมันวันละ 2 ลิตร รูรั่วนี้จะสร้างความเสียหาย 96 บาทต่อวัน, 35,040 บาทใน 1 ปี, และ 700,800 บาทใน 20 ปี
ค่าโทรศัพท์
ถ้าเราใช้โทรศัพท์เดือนละ 1,200 บาท รูรั่วนี้จะสร้างความเสียหาย 14,400 บาทใน 1 ปี, และ 288,000 บาทใน 20 ปี
ค่าโดยสาร BTS
ถ้าเราใช้ BTS ไปกลับ วันละ 60 บาท รูรั่วนี้จะสร้างความเสียหาย 21,900 บาทใน 1 ปี, และ 438,000 บาทใน 20 ปี
ค่าเข้าเซเว่น
ถ้าเราเข้าเซเว่นทุกวัน ใช้เงินวันละ 40 บาท รูรั่วนี้จะสร้างความเสียหาย 14,600 บาทใน 1 ปี, และ 292,000 บาทใน 20 ปี
ค่าเช่าบ้าน
ถ้าเราเช่าบ้านราคา 10,000 บาทต่อเดือน รูรั่วนี้จะสร้างความเสียหาย 120,000 บาทใน 1 ปี, และ 2,400,000 บาทใน 20 ปี
ค่าผ่อนบ้าน
ถ้าเราผ่อนบ้าน 20,000 บาทต่อเดือน รูรั่วนี้จะสร้างเงินออม 240,000 บาทใน 1 ปี, และ 4,800,000 บาทใน 20 ปี
ถึงตอนนี้เราคงจะทราบกันมากขึ้นแล้วว่า รอยรั่วแต่ละชนิด จะสร้างผลกระทบต่อเงินออมของเราในรูปแบบไหน อย่างไร และเงินของเราในแต่ละเดือน ได้รั่วไปใส่ในกระเป๋าใครกันบ้าง
เรากำหนดทิศทางและอนาคตทางการเงินของเราเองได้ครับ
ความคิดเห็น