เชื้อสายเดิมของนักลงทุน

ทำไมทุกวันนี้ถึงได้มีนักลงทุนหน้าใหม่ๆ เข้ามาในตลาดมาก อาจเป็นเพราะว่า คำว่านักลงทุนเป็นคำที่ดูดีมักๆ สามารถสื่อเป็นนัยยะเล็กๆถึงความรวย ความเท่ ฉลาด และมองการณ์ไกล ของผู้ที่ได้เป็น

อย่างไรก็ตาม การลงทุน นั้นอาจไม่ใช่อาชีพหลัก ใครหลายคนจึงอาจจะติดนิสัยจากพื้นเพเชื้อสายจากต้นตระกูลเดิมหรืองานที่เคยทำอยู่ วันนี้ เรามาดูกันว่า เชื้อสายชาติตระกูลดั้งเดิมหรืองานเดิมของคนที่ผันตัวเองมาเป็นสิ่งที่เรียกว่านักลงทุน แท้จริงแล้ว คนเหล่านี้ ยังแอบไปประกอบอาชีพแบบใด หรือเป็นใครที่แฝงตัวกันมาบ้าง

แบบแรก นักลงทุนแบบ ชาวไร่

นักลงทุนกลุ่มนี้เขาจะยังไม่ซื้อหุ้นหากราคาหุ้นยังไม่เริ่มขยับ ตัวกระตุ้นในการเข้าซื้อ หรือส่วนที่เขาต้อง Monitor เขาจะไปดูจาก Top gainer, Top loser และ Most active turn over ในแต่ละวัน หรือบางคน อาจเป็นรายชั่วโมง ที่ใดมีความเคลื่อนไหว เขาจะตามไปที่นั่น “ยิ่งขึ้น ยิ่งซื้อ” คือคติประจำใจ ถ้าวันไหนตลาดหุ้นคึกคัก เรามักจะเจอพวกเขาผสมโรงเสมอ เวลาจะซื้อก็ต้องไล่ซื้อที่ราคา offer เหมาทีเดียวไปสี่ห้าแถบ ชาวไร่คนที่หนึ่ง ก็จะกระตุ้นการซื้อของชาวไร่ คนถัดไปเรื่อยๆ ราคาหุ้นเราก็จะเห็นว่ามันเปิดโดดแบบ ไม่ให้วางทดแทนกันได้ทันเลยทีเดียว

แบบที่สอง ชาวสวน

นักลงทุนกลุ่มนี้เราจะพบเขาได้ทุกเวปบอร์ด ไม่ว่าใครจะมีความเห็นไปในแนวทางใด พวกเขาก็จะทำการ “สวน” ถ้าคุณเห็นดี เขาจะบอกไม่ดี ถ้าคุณบอกว่าไม่ดี เขาจะบอกว่าดี เราไม่รู้ว่า ชาวสวนเหล่านี้จะลงทุนได้กำไรดีหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ เขามักจะประกาศตัวอย่างภาคภูมิใจ เวลาที่คนส่วนใหญ่พลาดพลั้ง แต่เขาคิดถูก

แบบที่สาม ชาวดอย

นักลงทุนกลุ่มนี้ มักจะมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีเพื่อนมาก ตอนเดินขึ้น เขามีเพื่อนเดินขึ้นมาด้วยกัน เลยไม่รู้สึกว่าได้เดินมาไกลหรือเหนื่อย  พอตอนเช้าอีกที เพื่อนไปไหนหมดแล้วก็ไม่รู้ จะเดินกลับคนเดียวก็ไม่กล้า ดังนั้น คนกลุ่มนี้ จึงได้แต่คอยว่า ใครซักคนจะมารับ นอกจากจะมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี พวกเขายังไว้เนื้อเชื่อใจผู้อื่นมาก เชื่อว่าจะมีใครมารับเขาจริงๆ แม้เวลาจะผ่านไปสามหรือห้าปีก็ไม่เป็นไร เขาเหล่านั้นสามารถรอต่อไปได้ และไม่เคยหมดหวัง

แบบที่สี่ ชาวนา

นักลงทุนกลุ่มนี้จะหว่านพืชไว้หลายแปลง แต่ละแปลงก็คล้ายๆไร่นาสวนผสม แปลงไหนถึงเวลาสุกก่อนก็เก็บเกี่ยวก่อน แปลงไหนสุกทีหลังก็เก็บเกี่ยวทีหลัง ถ้ายังไม่ถึงเวลาเกี่ยวก็รอได้ ชาวนาคือนักลงทุนกลุ่มที่มีวินัยการลงทุนอย่างเข้มเข็ง ระหว่างรอเก็บเกี่ยว ก็ไปเที่ยวหรือทำอย่างอื่นไป ข้อดีก็คือสามารถบรรลุแผนการณ์ลงทุนที่ตั้งไว้ได้ง่าย และมีความยืดหยุ่นของกรอบระยะเวลาการลงทุนที่สูง แต่ข้อเสียก็มีอยู่เหมือนกัน  ข้อเสียของนักลงทุนกลุ่มนี้คือ ไม่สามารถหาค่าขนมรายวันได้ ดังนั้น หากรักจะเป็นชาวนา จะต้องเตรียมเงินค่ากินอยู่แยกไว้ให้พร้อม ต้องแยกชัดเจนว่าอันไหนเงินใช้จ่าย อันไหนเงินลงทุน

แบบที่ห้า ชาวเกาะ

ชาวเกาะคือมนุษย์ที่สามารถเกาะบรรดาเซเลปทางการเงินไปได้ทุกที ไม่ว่าจะเป็นงานประชุม สัมมนา เวปบอร์ด เวปบล๊อก ขอให้รู้ว่าเซเลปทางการลงทุนของพวกเขาไปที่ใด ลงทุนแบบไหน วิเคราะห์ว่าอย่างไร นักลงทุนเหล่านี้ ก็จะพร้อมตามไป “เกาะ” แบบไม่ปล่อย ไม่ว่าเซเลปของเขาอยู่ที่ใด ก็ไว้ใจได้เลยว่าเงินของเขาก็จะวางอยู่ที่นั่น

แบบที่หก ชาวเทพ

นักลงทุนกลุ่มนี้คือเทพศาสดาพยากรณ์ลงมาจุติ นอกจากจะเก่งเรื่องการเลือกหุ้น Timing และข่าวอินไซด์เดอร์อย่างเทพแล้ว เขาก็มักจะเสด็จลงมาโปรดเม่าน้อยๆ สาวกที่คอยติดตามอยู่เป็นครั้งคราว เราไม่สามารถรู้ได้หรอกว่า สถานการณ์ความมั่งคั่งของท่านเทพนั้นเป็นอย่างไร แต่เราสามารถแน่ใจได้เลยว่า ศาสดาพยากรณ์เหล่านี้นั้น เทพมาก บอกได้หมดทุกแนวรับ บอกได้หมดทุกแนวต้าน ลากเส้นให้เห็นแม่นราวกับตาเห็น ผมก็ไม่รู้จริงๆว่าท่านเทพจะทำอย่างที่ท่านทำนายไว้จริงหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ท่านสาวก ต้องใช้วิจารณญาณของตัวเองด้วยนะครับ

แบบที่เจ็ด ชาววัง

นักลงทุนกลุ่มนี้เป็นผู้ที่มีการศึกษาสูง มีกฏเกณฑ์ทางการลงทุนอย่างมีแบบแผน ไม่ซี้ซั้ว ห้ามลงทุนในบริษัทที่ขาดทุนอยู่ สภาพคล่องต้องเพียงพอ Market Cap ต้องไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้าน อยู่ใน SET 50 MSCI อะไร เช่นนี้เป็นต้น นักลงทุนในกลุ่มชาววัง มักจะเป็นคนที่รับเงินคนอื่นมาบริหาร ซึ่งจะทำไปมั่วๆไม่ได้ กำไรน้อยไม่เป็นไร กำไรหายไป เขาจะมีคำอธิบาย

แบบที่แปด ชาวเขา

ชาวเขาคือคนที่ในโลกนี้มีแต่คำว่า “เขา” ทำไมเขาไม่จับคนปั่นหุ้น ทำไมเขาวิเคราะห์กันอย่างนี้นะ ทำไมกลต.ไม่จัดการ ทำไมไม่ออกข่าวมาก่อน ทำไมเขาไม่บอกก่อนจะขายนะ ทุกประโยคสนทนามีแต่ “เขา” เป็นประธาน ไม่เคยมีความคิดเรื่อง “เรา” เลย ทำไมเราต้องเข้าไปเล่นหุ้นปั่น ทำไมเราจึงวิเคราะห์อย่างนั้น ทำอย่างไรเราจึงจะช่วยป้องกันนักลงทุนท่านอื่นจากคนที่ไม่หวังดีได้ ทำไมเราต้องซื้อขายตามคำแนะนำของผู้อื่นอยู่ร่ำไป

แบบสุดท้าย ชาวต่างชาติ

ชาวต่างชาติแท้จริงอาจจะไม่ใช่ใครที่ไหน บางที่ก็อาจจะเป็นนอมินีของคนไทย เชื้อสายไทย บางทีก็เป็นคนไทยที่ไม่มีสัญชาติไทยแล้ว บางทีก็เป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียง ลาว พม่า มาเลเซีย เวียดนาม ก็ได้ ดังนั้น การคอยมัวแต่จะจับๆจ้องๆว่าฝรั่งจะซื้อ หรือขาย หรือจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด ท่านอาจจะโดนฝรั่งสัญชาติไทย หลอกต้มเอาก็ได้ครับ

บทความนี้เขียนเอาความขำนะครับ ไม่ต้องจริงจังอะไรมาก ใครมีเชื้อสายใด อาชีพใดมาก่อน คงจะได้ทราบกันไปหมดแล้ว นักลงทุนแต่ละคน ก็จะมีนิสัยกันไปในแต่ละอย่าง แต่การใช้เพียงแค่ความเคยชิน ไม่สามารถทำให้เราพัฒนาตัวเองไปได้ให้ไกลนัก แต่เราจำเป็นต้องรู้จักตนเอง รู้เป้าหมายของตนเอง รู้จักคนที่เราต้องไปเกี่ยวข้องด้วย และเป้าหมายของเขาด้วย การทำงานแบบสำเร็จประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายก็จะเกิดขึ้นได้ และผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั้นสุดท้าย ก็จะตกแก่เราเอง